แหล่งท่องเที่ยวในอีสาน

วันพุธที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2553

-----> นักตกปลาเมืองน้ำหอม โชว์ปลาทองยักษ์ !




นักตกปลาเมืองน้ำหอม โชว์ปลาทองยักษ์

8ก.ย.สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายราฟาเอล บิอาจินี่ นักตกปลชาวฝรั่งเศสวัย 30 โชว์ปลาทองตัวใหญ่ยักษ์ น้ำหนักขนาด30 ปอนด์ หรือราว 13.5 กิโลกรัม หลังจากที่ไปตกปลาทางภาคใต้ของฝรั่งเศส

นายบิอาจินี่เล่าว่าไม่นึกว่าปลากที่มาติดเบ็ดจะตัวสีส้มแบบนี้ แต่ก็รู้ว่าคงตัวใหญ่มาก และปลาก็ดิ้นแรงมากด้วย แต่ก็สู้แรงเย่อของตนไม่ไหว พอยกขึ้นมาถ่ายภาพได้แล้ว ก็ปล่อยคืนทะเลสาบไป อีกทั้งไม่มีขวดโหลเลี้ยงปลาทองที่ตัวมหึมาขนาดนี้

เพื่อนนักตกปลากล่าวว่า พยายามตกปลาตัวนี้ให้ได้มานานกว่า 6 ปีแล้ว จนกระทั่งนายบิอาจินี่สามารถตกได้ดังกล่าว
ใส่สีสดใสอย่าได้แคร์
เทคนิคการใส่เสื้อผ้าสีสดแบบไม่แคร์สื่อ!!

สำหรับวัยใสเปรี้ยวปรี๊ดจี๊ดจ๊าดอย่างสาวๆ เสื้อผ้าที่มีสีสันสดใส ย่อมทำให้สาวๆ ดูสดใสสวยน่ารักสมวัย มากกว่าเสื้อผ้าสีโทนเข้ม อย่างที่คุณแม่คุณป้าเค้าใส่กัน … แต่สำหรับสาวๆ บางคนแล้ว ก็ยังไม่กล้าพอที่จะหยิบเสื้อผ้าสีสันจี๊ดจ๊าดจัดจ้านมาใส่ เพราะกลัวว่าจะดูแรงเกินบุคลิก

แต่จริงๆ แล้วพี่จะบอกให้นะคะว่า สำหรับสาวๆ แล้ว เสื้อผ้าสีสดน่ะ เหมาะสำหรับทุกคนนั่นล่ะค่ะ อยู่ที่ว่า สาวๆ จะรู้จักเทคนิคในการที่จะใส่ให้ดูดีได้รึเปล่าแค่นั้นเอง

พี่ว่า เรามาลองหาเทคนิคดีๆ ที่จะทำให้ใส่เสื้อผ้าสีสดแล้วดูสวยกันดีกว่าค่ะ







>>> เริ่มจากเครื่องประดับชิ้นเล็กๆ ก่อน อย่างสร้อย กำไล แหวน หมวก แล้วค่อยๆ เพิ่มสีสันลงไปบนชิ้นใหญ่ เช่น เสื้อ กระโปรง เสื้อกั๊ก จนกว่าจะมั่นใจถึงค่อยใส่เป็นเดรสสีสดทั้งตัว

>>> ถ้าสาวๆ ชอบสีโทนขรึมอย่างสีเอิร์ธโทนก็ใช้สีเดิมต่อไป แต่เพิ่มความสดลงไปในสีที่สาวๆ ชอบ เช่น ชอบใส่สีเนื้อก็ใส่สีเหลืองอ่อนแล้วค่อยๆ ให้เป็นเหลืองสว่างขึ้น ชอบม่วงก็ใส่ม่วงอ่อนก่อนแล้วค่อยๆ ปรับเป็นม่วงที่สดใสขึ้น ช่วยให้มั่นใจที่จะเดินออกไปนอกบ้านมากขึ้น เพราะอย่างน้อยสาวๆ ก็กำลังใส่สีโปรดอยู่



>>> ถ้ากลัวการใส่สีสดๆ ทั้งชุด ก็ลองใส่ผ้าสีพื้นที่มีลวดลายสดๆ จะช่วยให้การแต่งตัวของสาวๆ สนุกน่าสนใจขึ้นค่ะ

>>> จำไว้ให้ขึ้นใจนะคะสาวๆ อย่าใส่เฉดสีเดียวกันทั้งตัว แหว่างสีสดๆ กับสีอ่อน เช่น เสื้อชมพูกับกางเกงขาว เบรกด้วยเสื้อกั๊กสีดำ มิกซ์แอนด์แมทช์อย่าให้ซ้ำ จะเหมือนสาวๆ ได้ใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ๆ ทุกวันยังไงล่ะค่ะ

… ไม่ใช่เทคนิคที่ยากเลยใช่หรือเปล่าล่ะสาวๆ แบบนี้เห็นทีสาวๆ คงจะต้องลองนำไปใช้บ้างแล้วล่ะค่ะ

วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2553

8 วิธีอ่านหนังสือสอบได้อย่างเซียน!!


เมื่อลองย้อนเวลากลับไปในสมัยที่เรียนอยู่ ช่วงเวลาที่น่าเบื่อที่สุดคือ ช่วงเวลาแห่งการท่องตำราสอบ ไม่ว่าจะเรียนอยู่ในระดับไหนก็หลีกเลี่ยงการท่องตำราสอบกันไม่ได้ทั้งนั้น เคยเป็นไหมที่รู้สึกว่า อยากให้มีเวลาเยอะกว่านี้
เพื่อจะได้อ่านหนังสือสอบให้ทัน วันนี้เราจึงรวบรวมเทคนิคการอ่านให้ได้ประสิทธิภาพ ที่คิดว่าพอจะแก้ปัญหาเกี่ยวกับการอ่านมานำเสนอ ดังนี้
1. หัดให้ตัวเองมีวินัยให้ได้ คือ ถ้าเราวางแผนว่าจะอ่านหนังสือให้ได้เท่านี้สำหรับวันนี้ เราก็ต้องทำให้ได้ วิธีฝึกเริ่มแรกให้กำหนดง่ายๆ ก่อนว่า วันนี้เราจะอ่านตำราแค่ 1 บท หรือ 10 หน้า เป็นต้น เอาแค่นี้ให้ได้ ถ้าอ่านจบเร็วก็ไปทำอย่างอื่น พอวันต่อๆ ไปก็ค่อยๆ เพิ่มปริมาณขึ้นตามสมควร แล้วก็ต้องอ่านให้ได้ตามเป้าหมาย เมื่อเราอ่านได้ตามเป้าแล้วในแต่ละครั้งก็อย่าลืมให้รางวัลตัวเองด้วยทุกครั้ง โดยรางวัลก็อาจจะเป็นอะไรง่ายๆ เช่น ได้ดูละครหนึ่งเรื่องตอนกลางคืน เป็นต้น
2. วางแผนการอ่านหนังสือ เมื่อเรามีวินัยและเคารพการวางแผนของตัวเองแล้ว ต่อไปก็ต้อง วางแผนการอ่านหนังสือ การวางแผนที่ดีนั้นสำคัญมาก เพราะทำให้เราเดินไปถูกทิศทาง การวางแผนไม่ถือเป็นการเสียเวลา แต่เป็นการประหยัดเวลาในระยะยาว เพราะไม่ต้องไปเสียเวลาเดินผิดทาง
3. อย่าตะบี้ตะบันอ่านเกินควร อย่าคิดว่าตัวเองเป็น superman คือ สามารถอ่านหนังสือได้เยอะเกินกำลังภายในเวลาอันสั้น อย่าวางตารางการอ่านให้แน่นเกินไป เพราะนอกจากจะทำไม่ได้ตามแผนอยู่แล้ว ยังทำให้ตัวเองเครียดเพราะแผนนั้นโดยไม่จำเป็นด้วย แรกๆ อาจจะกะความสามารถตัวเองยากหน่อย หรือการอ่านตำราภาษาอังกฤษกับภาษาไทยก็ใช้ระยะเวลาการอ่านไม่เท่ากัน ก็ใช้เก็บสถิติจากการอ่านในรอบแรกๆ เช่น การอ่านภาษาอังกฤษ 1 หน้า เราใช้เวลา 10 นาที เราก็จะประมาณถูกว่าต้องใช้เวลาเท่าไรจึงจะอ่านจบบทหรือจบวิชา เป็นต้น
4. หาที่อ่านที่สงบเงียบและนั่งสบาย ส่วนบรรยากาศก็แล้วแต่คนชอบ บางคนชอบอ่านที่บ้าน ในห้องสมุด ในสวนมีต้นไม้เขียวๆ หรือในร้านกาแฟ หรือบางทีเราก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่ควรไม่อยู่ใกล้ทีวี หรือสิ่งต่างๆ ที่ทำให้เราเสียสมาธิ เพราะทำให้เราเสียเวลาในการอ่าน และทำให้จำได้ไม่ดีด้วย แต่ก็ทราบมาว่าบางคนจะชอบให้มีเสียงเพลงหรือเสียงอื่นๆ เวลาอ่านหนังสือด้วย อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบ
5. อย่าให้สิ่งใดมารบกวนการอ่าน เวลาอ่านหนังสือ เราควรกำหนดว่า เวลานี้เราจะตั้งใจ และไม่ปล่อยให้อะไรมาขัดโดยไม่จำเป็น เช่น อาจจะปิดเสียงโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น คนอื่นก็จะไม่มารบกวนโดยไม่จำเป็น การได้ทำงานหรืออ่านหนังสือเป็นช่วงเวลาติดต่อกันอย่างนี้มีประสิทธิภาพกว่าการอ่านที่ถูกหยุดด้วยสิ่งต่างๆ
6. พักผ่อนสมองบ้าง เมื่ออ่านหนังสือไปนานๆ เราก็จะเริ่มล้า ทั้งสมองที่ต้องคิด ทั้งร่างกายที่ไม่ได้ขยับ ทั้งสายตาที่ต้องจ้องอยู่นาน เราก็ควรกำหนดเวลาพัก อันนี้ก็แล้วแต่คนชอบ อาจจะพักอ่านหนังสือทุกๆ ชั่วโมงหรือ 2 ชั่วโมง โดยออกไปเดินยืดเส้นยืดสาย ดื่มน้ำ ทานขนม หรือไปมองต้นไม้เขียวๆ เวลาพักก็ต้องกำหนดด้วยว่า 5 นาที หรือ 15 นาที เป็นต้น
7. ชอบขีดเส้นหรือเน้นข้อความที่สำคัญในหนังสือโดยไม่หวงหนังสือ ว่าจะดูเลอะเทอะเลย เพราะชอบเวลากลับมาอ่านทวน เราก็จะรู้ว่าจุดไหนเป็นข้อมูลสำคัญ เรายังสามารถใช้ทบทวนก่อนสอบได้ด้วย สำหรับคนที่ชอบหนังสือใหม่ๆ เกลี้ยงๆ ก็อาจจะต้องหาสมุดกับปากกามาจดสิ่งที่สำคัญจากหนังสือนั้นๆ เพื่อการอ่านทบทวนได้
8. พยายามจัดเวลาอ่านหนังสือในช่วงเวลาที่เราตื่นตัวที่สุด อันนี้แตกต่างกันไป บางคนจะจำได้ดีถ้าอ่านตอนเช้า บางคนเป็นตอนเย็น ก็ต้องสังเกตตัวเองดู ถ้าทราบแล้วอาจจะกำหนดเป็นเวลาประจำทุกวัน เช่น ทุกวันเวลา 2 ทุ่ม - 5 ทุ่ม เราต้องอ่านตำราทบทวนที่เรียนมา เป็นต้น

ข้อมูลจาก : http://www.bangkok-today.com/node/301